Cover บทความ Off-Page SEO คืออะไร

Off-Page SEO คืออะไร? สำคัญแค่ไหนในการทำ SEO ปัจจุบัน

mins read   1stCraft Team

ปัจจัยในการจัดอันดับของ Google มาจากทั้งเนื้อหาบนเว็บไซต์ (On-Page SEO) ที่ตอบโจทย์ผู้คน ประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ บวกกับโครงสร้างเว็บที่ Google Bot เข้าใจได้ง่าย และความน่าเชื่อถือ หรือ Authority ของเว็บไซต์ในสายตา Google เป็นเหตุผลให้การทำ SEO ที่ดีจะต้องให้ความสำคัญกับการทำ Off-page SEO ที่หรือการทำ SEO นอกเว็บไซต์ด้วย

เจ้าของเว็บไซต์ที่อยากทำอันดับของเว็บให้ดี มาดูกันว่าการทำ Off-page SEO คืออะไร? และมีความสำคัญต่อเว็บไซต์ของคุณมากแค่ไหน เพื่อให้เว็บสามารถไต่อันดับขึ้นสู่หน้าแรกได้

Off-page SEO คืออะไร

Off-page SEO คืออะไร

Off-page SEO หรือ Off-site SEO คือ การทำ SEO จากภายนอกเว็บไซต์ผ่านปัจจัยภายนอก เช่น การทำ Link Building, การทำแบรนด์ให้ปรากฏบนโลกออนไลน์, การทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงหรือ Mention ผ่านโซเชียลมีเดียหรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ ฯลฯ 

โดยปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเราน่าเชื่อถือและเป็นที่นิยม ถือเป็นอีกปัจจัยในการจัดอันดับเว็บไซต์ (Ranking Factors) ที่ Google ให้ความสำคัญ

หากคุณศึกษาการทำ SEO มาบ้าง อาจเข้าใจว่า การทำ Off-page ก็คือ การทำ Link Building เพื่อให้เว็บไซต์ได้ลิงก์อ้างอิง (Backlink) กลับมาเยอะๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว การทำ Off-page ยังมีเทคนิคอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด เราจะค่อยๆ ทำความรู้จักกันในบทความนี้

การทำ Off-page SEO ไม่เท่ากับการทำ Link Building เท่านั้น
ขอบคุณภาพจาก reliablesoft.net

Off-page SEO สำคัญแค่ไหนกับการทำ SEO ไม่ทำได้ไหม?

การทำ Off-page SEO แม้ว่าจะมีการถกเถียงว่า มีความสำคัญน้อยลงหรือเปล่า เพราะ Google ฉลาดขึ้นทุกวันและสามารถเข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์เพื่อคัดเลือกมานำเสนอผู้เสิร์ชได้ตรงกับความต้องการมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยการทำ Off-page SEO ยังเป็นองค์ประกอบหลักในการทำ SEO และ Google ใช้เป็นปัจจัยในการจัดอันดับเว็บไซต์อยู่

การทำ Off-page SEO คือ การบอก Search Engine อย่าง google ว่า เว็บไซต์ของเรามีความน่าเชื่อถือ (Authority) คนให้ความนิยม และยังสำคัญต่อเว็บไซต์อื่นๆ ที่อ้างอิงลิงก์มาหา (การให้ Backlink) และยิ่งเว็บไซต์ไหนมี Authority สูง (ลองเช็ก Domain Authority ของเว็บไซต์ได้ที่นี่) ก็มีโอกาสที่ Google จะจัดอันดับเว็บไซต์ให้ดีขึ้น 

หากยกตัวอย่าง ถ้ามีเว็บไซต์ขายเครื่องจักรโรงงานสองเว็บไซต์ ที่จับกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน และทำ Keyword Research (หนึ่งองค์ประกอบในการทำ On-page SEO ที่สำคัญ) ได้คำหลักในการมาออกแบบเนื้อหาบนเว็บไซต์เหมือนๆ กัน และเก็บปัจจัยการทำ On-page SEO ได้ครบเท่าเทียมกัน…

ปัจจัยที่ Google จะดูต่อมาจึงเป็นปัจจัยเรื่อง Off-page ดูว่า เว็บไซต์ไหนมีความนิยมมากกว่ากันและมีความสำคัญ (ในฐานะที่ถูกอ้างอิงบ่อยหรือมีการถูกพูดถึง) ก็จะถูกจัดอันดับให้เหนือกว่า 

ความสำคัญของการทำ Off-page SEO ต่อเว็บไซต์

1. การทำ Off-page SEO ช่วยเพิ่ม Domain Authority

การทำ Off-page SEO ช่วยเพิ่ม Domain Authority ให้กับเว็บไซต์ได้ โดยมาจากปัจจัยการทำ Link Building หรือการที่มีลิงก์อ้างอิง (Backlink) มายังเว็บไซต์หลายลิงก์ ทำให้ Google เห็นว่า เว็บไซต์ของเรามีความสำคัญกับเว็บไซต์อื่นๆ เป็นแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ

2. Off-page SEO ช่วยเพิ่ม Traffic ได้เช่นกัน

การทำ Off-page SEO หลายปัจจัย (ที่จะพูดถึงในหัวข้อถัดไป) เช่น การทำ Link building การทำ Branding การทำที่มีลิงก์ของเว็บไซต์ไปแปะในแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยให้เว็บไซต์ได้ Traffic หรือการเยี่ยมชมเว็บไซต์นอกหน้าเสิร์ช (SERPs: Search Engine Result Pages)

3. Off-page SEO ช่วยให้การทำ SEO โดยรวมง่ายขึ้น

เมื่อ Domain Authority สูงขึ้น เว็บไซต์จะมีความน่าเชื่อถือ ช่วยให้ Google จัดอันดับหน้าเพจใหม่ๆ ของเว็บไซต์ขึ้นได้รวดเร็วขึ้น ทำให้หน้าเพจใหม่ๆ ได้รับ Traffic ขึ้นไว Authority ของหน้าเพจใหม่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

10 เทคนิคทำ Off-page SEO มีอะไรบ้าง?

การทำ Off-page SEO หลายคนมักเข้าใจว่าเท่ากับการทำ Link Building หรือการหา Bacnklink ให้กับเว็บไซต์เพื่อเพิ่ม Domain Authority แต่จริงๆ แล้ว การทำ Off-page ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เราสามารถทำหรือ Optimize เพิ่มได้ โดยเทคนิคการทำ Off-page SEO ที่จะแนะนำ มีทั้งปัจจัยที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวกับการทำลิงก์

  1. การทำ Link Building หรือหา Backlink 
  2. การสร้างแบรนด์ หรือ Brand building
  3. การใช้ Content Marketing
  4. Video & Podcasts
  5. Local SEO (GMB and Citations)
  6. Social Media
  7. การทำ Press Release
  8. การไปเป็น Guest Blogger (Guest posting)ให้กับเจ้าอื่น
  9. Forums
  10. Influencer Marketing

การทำ Link Building หมายถึง การทำให้เว็บไซต์ได้ลิงก์อ้างอิงจากเว็บไซต์อื่นกลับมา หรือที่เรียกว่า “การหา Backlink” ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักๆ ในการทำ Off-page SEO เลยก็ว่าได้ 

แต่ใช่ว่าเราจะสามารถทำ Link Building จากเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาลอยๆ หรือจากเว็บไซต์ไหนก็ได้ ถ้าจะทำ Link building ให้มีประสิทธิภาพก็ต้องหา Backlink คุณภาพมาให้ได้ ซึ่งคุณลักษณะของ Backlink คุณภาพที่ว่ามี 3 ลักษณะด้วยกัน ได้แก่

  1. มาจากเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูง คุณสามารถตรวจ Domain Authority ของเว็บไซต์ต่างๆ ได้จากลิงก์ที่แนะนำนี้ 
  2. มาจากเว็บไซต์ที่มีคนใช้งานจริง ไม่ใช่เว็บไซต์ปลอมหรือที่สร้างขึ้นมาเพื่อยิง Backlink มาให้เว็บไซต์ หากใช้กลยุทธ์นี้ อาจส่งผลในทางตรงกันข้าม 
  3. มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เช่น เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพก็ควรได้รับ Backlink มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพเช่นเดียวกัน 

ส่วนวิธีการที่เราจะได้ Backlink มา ก็มีหลากหลายวิธีด้วยกัน ทั้งที่มาจากการทำ Link Building ด้วยตัวเอง และจาก Link Building จากแหล่งอื่น 

  • การทำ Link Building ด้วยตัวเอง เช่น สร้างเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมา ทำเนื้อหาให้มีคุณภาพ และมีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หลัก จากนั้นจึงส่งลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์หลัก  
  • ทำ Link Building จากแหล่งอื่น หมายถึง ทำให้เว็บไซต์ของผู้อื่นอื่นลิงก์กลับมาเว็บไซต์ของเรา เช่น การซื้อ Backlink การขอให้ช่วยส่ง Backlink ให้ การอาสาไปเขียนบทความ การทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมีคนอ้างอิง ฯลฯ

2. ทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและมีคนเสิร์ช (Brand Building)

การสร้างแบรนด์ก็ถือเป็นการทำ SEO เช่นเดียวกัน แม้จะไม่ได้เป็นปัจจัยในการจัดอันดับโดยตรงก็ตาม แต่การที่เราทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก มีคนค้นหาชื่อแบรนด์ของเราบน Google บ่อยๆ ก็ช่วยให้ Google เชื่อถือเว็บไซต์ของเรามากขึ้น  

แบรนด์ของคุณสามารถตรวจเช็กความนิยมของแบรนด์บน Google ได้ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Google Trends โดยการเสิร์ช “ชื่อแบรนด์” ลงไป แล้วดูว่ามีการเติบโตหรือไม่ 

ตัวอย่างเทรนด์การเสิร์ชแบรนด์ “บาจา”
ตัวอย่างเทรนด์การเสิร์ชแบรนด์ “บาจา” 

ยิ่งแบรนด์ได้รับการเสิร์ชมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่เว็บไซต์ของเราจะทำอันดับได้ง่ายและดีขึ้นเท่านั้น

3. ทำคอนเทนต์คุณภาพเน้นให้คนแชร์ 

การทำคอนเทนต์หลายคนอาจจะคิดว่า เป็นเรื่องของการทำ On-page SEO การทำบล็อกคอนเทนต์เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถประยุกต์การทำคอนเทนต์ และ Content Marketing มาช่วยทำ Off-page SEO ได้ 

โดยเน้นการทำคอนเทนต์บางประเภทให้เหมาะกับการแชร์หรืออ้างอิง และขอให้คนส่ง Backlink กลับมาให้เว็บไซต์ของเราได้ ยกตัวอย่างเช่น 

  • การทำ Infographic ให้คนแชร์ไปใช้ อาจจะขอให้เขาช่วยส่งลิงก์กลับมาเป็นการตอบแทน
  • การทำ Share Slide หรือ E-book เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนแชร์และส่ง Backlink กลับมา โดยเฉพาะสไลด์ที่สามารถแปะโค้ด html ไปใช้งานได้บนเว็บไซต์ จะฝังลิงก์ต้นทางไว้อยู่แล้ว
  • การทำคอนเทนต์คุณภาพแบบจัดเต็ม เพิ่มโอกาสให้คนใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการอ้างอิงหรือแชร์เก็บไว้อ่านภายหลัง

4. ทำวิดีโอและพอดแคสต์

การทำวิดีโอและพอดแคสต์ลง YouTube และแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็เป็นอีกวิธีที่ใช้ทำ Off-page SEO ได้ 

เราสามารถทำวิดีโอและพอดแคสต์ให้ความรู้และแปะลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของเรา แม้ว่าจะเป็น Backlink นอกแพลตฟอร์มเว็บไซต์และไม่ได้อยู่ในปัจจัยการจัดอันดับเว็บไซต์ (Ranking Factors) ของ Google แต่การที่มีลิงก์ให้คนกด ก็ช่วยเพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ได้อยู่ดี รวมไปถึงเป็นการทำ Brand Building ในอีกรูปแบบด้วย

5. ทำ Local SEO บน Google My Business

ตัวอย่างการทำ Google My Business ให้กับธุรกิจ
ตัวอย่างการทำ Google My Business ให้กับธุรกิจ
สร้างโปรไฟล์ธุรกิจได้ที่นี่ Google My Business 

การทำ Local SEO คือ การทำให้เว็บไซต์เสิร์ชเจอได้ง่ายขึ้นผ่านการนำเสนอข้อมูลในพื้นที่ของ Google ยกตัวอย่างเช่น เราเสิร์ชหาร้านกาแฟ ร้านนวด หรือร้านตัดผมบน Google บนหน้าแสดงผลการค้นหาจะมีลิสต์ร้านต่างๆ ขึ้นมาให้เราเลือก นั่นคือ ผลของการทำ “Google My Business” 

นอกจากร้านค้าหรือร้านที่ให้บริการต่างๆ จะทำ Google My Business ได้ เว็บไซต์ประเภท B2B หรือเว็บไซต์อื่นๆ ก็สามารถสร้างบัญชี GMB ได้เช่นกัน ด้วยการใส่ที่อยู่บริษัทหรือสำนักงาน แล้วใส่รายละเอียดต่างๆ เช่น เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ เวลาทำการ ฯลฯ 

โดยการทำ Local SEO จะช่วยให้ Google มองว่า เว็บไซต์ของเราน่าเชื่อถือ มีหลักแหล่งชัดเจน และอย่าลืมว่า GMB ก็เป็นของ Google ดังนั้น แนะนำว่า ไม่ควรพลาดทำ ที่สำคัญคือ ทำง่ายและไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งเหมือนเว็บไซต์ และถ้าหากไม่ทำ แน่นอนว่า เว็บไซต์ที่จะแสดงผลก่อนหรือแสดงผลแบบ Local Search ก็อาจจะเป็นเว็บไซต์คู่แข่งของเรา

6. ใช้โซเชียลมีเดียทำ Off-page SEO

การทำโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketnig) ก็ช่วยให้ผลลัพธ์โดยรวมของการทำ SEO ดีขึ้นได้ ซึ่งถือเป็นอีกกลยุทธ์ Off-page SEO ที่ทำง่ายและไม่ควรพลาดเช่นเดียวกัน 

ปัจจุบันผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 93% ต่างล็อกอินเข้าใช้งานโซเชียลมีเดีย และเป็นช่องทางสำคัญที่ลูกค้าหรือผู้ติดตามใช้ติดต่อและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ (Brand Engagement) นอกจากนี้ ผู้คนยังใช้โซเชียลมีเดียในการสืบค้นแบรนด์ ร้านค้า หรือบริการต่างๆ เพื่อสืบดูข้อมูลต่างๆ ของแบรนด์หรือร้าน เพื่อดูว่าแบรนด์หรือร้านเป็นแบบไหนตลอดจนดูคอมเมนต์ รีวิวหรือสิ่งที่แบรนด์ถูกพูดถึง การใช้โซเชียลมีเดียจึงถือว่าเป็นการสร้างแบรนด์ (Brand Building) ในรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มการเสิร์ชชื่อแบรนด์ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ เรายังสามารถนำเทคนิคอื่นๆ มาประยุกต์ใช้ผ่านโซเชียลมีเดียได้ เช่น การนำเอาเว็บไซต์มาแชร์บนโซเชียลฯ แชร์คอนเทนต์คุณภาพต่างๆ ก็ช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้ ช่วยให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น 

7. เขียนบทความให้กับเว็บไซต์อื่น (Guest Blogging)

เราไม่จำเป็นต้องรอให้เว็บไซต์อื่นส่ง Backlink ให้เรา แต่เราสามารถทำเองได้ ผ่านการ “อาสาเขียนบทความ” ให้กับเขา หรือการทำ Guest Blogging ให้กับเว็บไซต์อื่น 

เราสามารถติดต่อขอเว็บไซต์ที่มี Authority สูงๆ แล้วเสนอตัวขอเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเขาหรือตรงกับความสนใจของกลุ่มผู้ติดตาม (Audience) ของเว็บไซต์นั้นๆ โดยในบทความเราสามารถแทรกลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ของเราได้หรืออาจระบุเว็บไซต์ของเราไว้บน ‘โปรไฟล์ผู้เขียน’ ก็สามารถทำได้

ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกเว็บไซต์ที่จะอนุญาตให้ใช้กลยุทธ์นี้ คุณอาจติดต่อกับเจ้าของเว็บไซต์โดยตรงหรือสืบดูก่อนว่ามีผู้เขียนคนอื่นๆ ที่เป็น Guest มาเขียนให้ด้วยหรือเปล่า 

8. เขียนหรือตอบกระทู้ (Forums) 

ตัวอย่างการตั้งกระทู้พันทิป พร้อมใส่ลิงก์เว็บไซต์
ตัวอย่างการตั้งกระทู้พันทิป พร้อมใส่ลิงก์เว็บไซต์

Forums หรือกระทู้เป็นอีกช่องทางสำคัญในการสร้างแบรนด์และทำ Off-page SEO โดย Forums ที่คนไทยนิยมใช้คงหนีไม่พ้นเว็บไซต์ Pantip.com หรือพันทิป เป็นพื้นที่ที่คนไทยใช้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สอบถาม ปรึกษาเรื่องต่างๆ ขอคำแนะนำ รีวิวของใช้ รีวิวร้านอาหาร ฯลฯ 

ธุรกิจและเว็บไซต์ของเราสามารถเข้าไปเขียนพันทิปให้คำแนะนำต่างๆ รวมถึง สามารถแปะลิงก์กลับมายังเว็บไซต์หลักของเราได้ ถึงแม้ว่า ลิงก์ที่ได้กลับมาจะไม่ใช่ลิงก์ Do-follow แต่เป็นลิงก์ No-follow (หมายถึง ไม่ให้เครดิตหรือค่าพลัง SEO กลับมาที่เว็บไซต์) 

แต่ลิงก์นั้นก็สามารถนำ Traffic ใหม่ๆ เข้ามายังเว็บไซต์ได้เช่นกัน และที่สำคัญที่สุด ถ้าเราสามารถให้ความรู้ คำแนะนำ หรือตอบคำถามผู้คนได้ แบรนด์ก็ยังได้รับความน่าเชื่อถือ ส่งผลต่อ Authority ของแบรนด์และเว็บไซต์บนโลกออนไลน์โดยตรง

9. ทำอีเวนต์หรือจัด Webinar

การทำอีเวนต์ (Event) หรือจัดงานสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ที่นิยมกันในปัจจุบัน นอกจากจะมีประโยชน์ในด้านการสร้างแบรนด์/ประชาสัมพันธ์แบรนด์แล้ว ยังส่งผลต่อปัจจัยการทำ Off-page SEO อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น…

  • แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น คนสนใจแบรนด์มากขึ้น 
  • เพิ่มโอกาสที่คนจะเสิร์ชหรือค้นหาแบรนด์
  • แบรนด์ได้แนะนำโปรดักต์ บริการ เข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
  • สามารถใช้เป็นโอกาสประชาสัมพันธ์ให้คนไปดาวน์โหลดหรืออ่านคอนเทนต์บนเว็บไซต์ (ต่อยอดทำ Inbound Marketing อีกต่อได้)
  • ได้ Backlink กลับมาผ่านการทำ Press Release หรือมีสื่อเขียนข่าวถึง
  • ประยุกต์ใช้กับการทำ Influencer Marketing ให้ Influencer ช่วยแชร์อีเวนต์ของแบรนด์ได้

10. ทำ Influencer Marketing

การทำ Influencer Marketing เป็นอีกกลยุทธ์การตลาดและเทคนิคทำ Off-page SEO ที่ให้ผลดีมากๆ เช่นกัน ด้วยการที่แบรนด์หรือเว็บไซต์ไปร่วมงานกับ Influencer หรือกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อ/ความคิดเห็นของกลุ่มคนต่างๆ ซึ่งประเภทของ Influencer ก็มีหลายสายด้วยกัน 

แบรนด์สามารถร่วมมือกับ Influencer ตามสายอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น เว็บไซต์ของเราเป็นเว็บไซต์ด้านการเงิน ขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน แบรนด์อาจร่วมมือกับ Influencer สายการเงิน เพื่อให้เขารีวิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา แล้วแนะนำกับผู้ติดตามหรือชุมชน (Community)  ของเขาผ่านช่องทางต่างๆ ช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก เพิ่มโอกาสที่คนจะเข้ามาปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้น 

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการที่ง่ายกว่านั้น โดยเราอาจตกลงขอให้ Influencer ช่วยแชร์คอนเทนต์จากเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของแบรนด์ก็ได้ เช่น บทความ โพสต์ Infographic วิดีโอ ฯลฯ ทำให้เว็บไซต์ของเราเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ๆ แบรนด์เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น และยังได้ Traffic กลับมาให้เว็บไซต์อีกด้วย

สรุปบทความ

การทำ Off-page เป็นการทำ SEO ที่อาศัยปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ ซึ่งเทคนิคการทำ Off-page SEO ต่างๆ ไม่ได้มีแค่การหา Backlink ทำให้เว็บไซต์ได้ลิงก์อ้างอิงจากเว็บไซต์หลายๆ เว็บไซต์มาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างแบรนด์ ทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก น่าเชื่อถือ ฯลฯ 

และปัจจัย Off-page ต่างๆ ที่รวมกัน จะช่วยให้แบรนด์และเว็บไซต์มี Authority บนโลกออนไลน์ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้การทำอันดับบน Google ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและยังทำให้ภาพรวมการทำ SEO ทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 

ธุรกิจของคุณต้องการทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Google หรือเปล่า? 

ปรึกษาเรื่องการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ที่ 1stCraft เรามีประสบการณ์ในการทำ SEO ให้องค์กรทั้งขนาดกลางและใหญ่แบบครบวงจร เว็บไซต์ของคุณยังขาดองค์ประกอบไหน ต้องการเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์ให้มากขึ้น? 

ปรึกษาเรื่อง SEO กับเรา ที่นี่ 1StCraft เรายินดีให้คำปรึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย