ในยุคสมัยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก ไม่ว่าจะบริษัทเก่าหรือบริษัทใหม่ต่างเห็นว่าการก้าวไปข้างหน้าต้องอาศัยเทคโนโลยี กระแสการสร้าง Web Application ขึ้นมามากมายเองก็เป็นเครื่องการันตีความเปลี่ยนแปลง หลายคนก็สงสัยว่าถ้าอยากทำเว็บแอปนั้น แพงมั้ย ต้องจ่ายเท่าไหร่ ในวันนี้เราจึงจะมาอธิบายว่าการจ้างบริษัทรับทำ Web Application ขึ้นมาซักครั้ง ควรจะต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ครับ
ข้อควรรู้ก่อนจ้างทำ Web Application
สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนคิดจ้างทำ Web Application คือ ขอบเขตของ Web Application นั้นมีความกว้างมาก ตั้งแต่เป็นเว็บแอปคิดเงินแบบง่ายๆ ไปจนถึงเว็บแอปของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งราคาค่างวดก็จะสูงตามไปด้วย
ด้วยสาเหตุนั้นเราจึงจะมาอธิบายว่าในการจ้างบริษัทรับทำ Web Application นี้เนี่ย มีอะไรต้องทราบบ้างก่อนเริ่มการจ้างงานอย่างจริงจัง
รูปแบบของ Web Application
แม้จะถูกเรียกว่า Web Application แต่จริงๆ แล้วมันมีความหลากหลายในตัวเองสูงมากเลยครับ ซึ่งเราสามารถแบ่งเว็บแอปออกเป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- Static web application
เว็บแอปแบบง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก มีการตกแต่งน้อย สามารถดัดแปลงเพิ่มเติมได้ยาก โดยส่วนมากจะถูกใช้เป็น Porfolio ออนไลน์ หรือสื่อการสอนอย่างง่ายๆเสียมากกว่า - Dynamic web application
เว็บแอปที่ถูกพัฒนาขึ้นมา โดยเพิ่มความซับซ้อนด้านการจัดการ ซึ่งสามารถ ตกแต่ง ดัดแปลงได้ง่ายกว่า Static web app รวมไปถึงการเปิดใช้งานระบบแอดมิน ซึ่งคือการมอบสิทธิ์ให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาอัพเดทข้อมูลต่างๆ ได้ แม้ว่าจะไม่ใช่คนสร้างเว็บก็ตาม - E-commerce web application
ตรงตัวเลยครับ เว็บไซต์สำหรับซื้อขาย ที่มีการจัดการด้าน e-payment รวมถึงระบบสมาชิกเข้ามาในเว็บแอป ซึ่งจะเพิ่มความยุ่งยากขึ้นมามากและใช้ทรัพยากรสูง เนื่องจากต้องมีการเชื่อมต่อระบบการเงิน อัพเดทสินค้าต่างๆ รวมถึงรับมือ user จำนวนมากอีกด้วย - Portal web application
เว็บแอปประเภทนี้จะทำหน้าที่คล้ายกับโฮมเพจที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งอาจจะมีระบบแชท ส่งอีเมล รวมไปถึงหน้าค้นหาด้วยก็ได้เช่นกัน - Animated web application
เว็บแอปแบบเคลื่อนไหวได้ เหมาะสำหรับสายอลัง Creative และ Design สิ่งใหม่ๆ หลายคนเลือกทำเว็บแอปแบบนี้เป็นการโชว์สินค้า ทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ - Web Application with a content management system
ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยในรูปแบบของบล็อกต่างๆ บทความ ไปจนถึงสื่อ ที่เน้นด้านการแสดงผลที่สวยงาม อัพเดทง่าย และสามารถติดตามได้ว่ามีคนเข้ามาอ่านมากน้อยเท่าไหร่
แน่นอนว่าทุกแบบมีความยากง่าย ข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการทำงานในอนาคตครับ
บริษัทที่ต้องการจ้างงาน
เมื่อกำหนดรูปแบบการทำงานได้แล้วก็ถึงเวลาที่จะจ้างงาน แต่หลายคนยังไม่ทราบว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจ้างบริษัทไหนจึงจะคุ้มค่า ดังนั้นสิ่งที่ต้องสังเกตต่อมาคือ
- รูปแบบงานที่บริษัทนั้นๆ รับทำ บางบริษัทจะมีข้อจำกัดอยู่ เช่น ไม่รับทำเว็บแอป E-commerce หรือไม่รับทำ Static web app เป็นต้น
- ประสบการณ์ของบริษัท ว่าบริษัทนี้ผ่านงานรูปแบบไหนมาบ้าง ในส่วนนี้จะเน้นไปทางด้านผลงานและการคุยกันที่ถูกคอมากกว่าครับ เพราะงาน Web Application นั้น องค์กรใหญ่จะทำเป็นระบบที่ใช้กันภายใน นั่นทำให้บริษัทรับทำเว็บแอปส่วนใหญ่แล้ว ไม่สามารถนำระบบหรือข้อมูลเหล่านี้มาเปิดเผยได้ ดังนั้น Degree ดี คุยถูกคอ มีการดำเนินการที่รัดกุม เท่านี้ก็น่ารับไว้พิจารณาแล้วหล่ะครับ
- เรทราคาอยู่ในเกณฑ์สมเหตุสมผล แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ได้มีแค่เรื่องถูกกับแพง เพียงแต่ทางบริษัทต้องชี้แจงได้ว่าเราต้องลงงบประมาณในส่วนไหนบ้าง จึงจะเหมาะสม ไม่มีการลงงบที่คลุมเครือ น้อยหรือมากจนเกินไป อย่าลืมว่ายิ่งเราอยากได้งานดีมากเท่าไหร่ ก็ต้องเตรียมเงินมากขึ้นเท่านั้น
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการจ้างทำ Web App
แน่นอนว่าการสร้างเว็บแอปที่ดีก็ต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง แต่ก็มีหลายคนที่ชื่นชอบของถูก เน้นการจ้างถูกไว้ก่อน ตัดนู่นตัดนี่จนเกินไป แต่ก็ยังมีสิ่งที่ห้ามละเลยเด็ดขาดในการคุยงาน คือ
ความปลอดภัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน ข้อมูลลูกค้า หรือข้อมูลภายในบริษัท ห้ามละเลยด้าน Security ของเว็บแอป แน่นอนว่าคุณอาจต้องเสียเงินและเวลาในการจัดการมากขึ้น แต่คิดล่วงหน้าไว้เลยครับว่า มันดีกว่าการที่ต้องมาเสียความน่าเชื่อถือจากลูกค้า ไปจนถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะทำข้อมูลหลุดแน่นอน
ความรวดเร็ว
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตนั้นก้าวไกลจนไวกว่าสมัยก่อนมาก และเนื่องจากเปิดในเว็บเบราเซอร์เว็บแอปจึงมีตัวเปรียบเทียบมากมาย ถ้าหากเว็บแอปช้า เราก็จะสามารถเห็นได้ทันที ยิ่งคนใจร้อนรอไม่ถึง 5 วินาทีหากเว็บไม่ขึ้นก็ปิดเสียแล้ว
ดังนั้นอย่ารีบเร่งในการทำเว็บจนเกินไป พยายามสังเกตรูปแบบการทำงานของเว็บไซต์ว่ามีจุดไหนบกพร่อง รวมถึงตรวจสอบหน้าโหลดว่ามีหน้าไหนช้าเกินไปหรือเปล่า ในบางครั้งการพูดคุยและหาสาเหตุเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมากับผู้พัฒนา อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายได้กำไร เราก็ได้เว็บดี เขาก็ได้เครดิตว่าทำเว็บดีๆ ให้
จากที่อ่านมาคงเห็นแล้วนะครับว่าการจ้างบริษัทรับทำ Web application ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย มันมีรายละเอียดยิบย่อยมากมาย
ควรเตรียมเงินเท่าไหร่เพื่อจ้างบริษัททำ Web Application
ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำเว็บแอปแบบไหนครับ เนื่องจากต้องยอมรับว่าการทำ Web application จะมีฐานราคาที่หลากหลายมาก
ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณควรทราบคือ การเลือกรูปแบบของ Web Application จาก 6 รูปแบบข้างต้น
หากเป็นเว็บแอปง่ายๆ สำหรับบริษัทมีการจัดการสมาชิก จัดการข้อมูล ราคาหลักหมื่นก็อาจมีคนรับทำ แต่ถ้าเป็นบริษัทนั้นจะค่อนข้างยากซักนิด เนื่องจากทางบริษัทเองก็ย่อมมีมาตรฐานการทำงาน เพิ่มความปลอดภัย ความเร็ว ซึ่งกินทรัพยากรบุคคลและเวลา ราคาอาจจะอยู่ในหลักแสน
แน่นอนว่าถ้าเป็นเว็บแอปสำหรับบริษัทใหญ่ การจัดการข้อมูลมาก มีฟังก์ชันและบริการเสริมเยอะ ราคาจะขึ้นไปเป็นหลักล้านก็ไม่แปลกแต่อย่างใด
สรุปท้ายบทความ
ดังนั้นหากจะหาข้อสรุปว่าควรเตรียมเงินไว้เท่าไหร่เพื่อจ้างบริษัททำ Web application ก็ขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณต้องการงานแบบไหนแล้วล่ะครับ ก่อนจะไปทำการคุยแบบลงลึกรายละเอียดกับทางบริษัท เพื่อทำความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ให้ได้เกิดประโยชน์ด้วยกันมากที่สุด
สำหรับท่านใดที่สนใจบริการทำ Web Application ปรึกษาเราได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดครับ